ต้นเฟื่องฟ้า
รหัสพันธุ์ไม้ : 7-31160-002-063
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Bougainvillea spp.
วงศ์ : NYCTAGINACEAE
ชื่อสามัญ : Paper Flower
ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ : ดอกต่างใบ (กรุงเทพฯ), ดอกกระดาษ ดอกโคม (ภาคเหนือ), ตรุษจีน (ภาคกลาง), เย่จื่อฮวา จื่อซานฮวา (จีนกลาง) เป็นต้น
ถิ่นกำเนิด : ประเทศบราซิล
เวลาออกดอก : ตลอดปี
วงศ์ : NYCTAGINACEAE
ชื่อสามัญ : Paper Flower
ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ : ดอกต่างใบ (กรุงเทพฯ), ดอกกระดาษ ดอกโคม (ภาคเหนือ), ตรุษจีน (ภาคกลาง), เย่จื่อฮวา จื่อซานฮวา (จีนกลาง) เป็นต้น
ถิ่นกำเนิด : ประเทศบราซิล
เวลาออกดอก : ตลอดปี
ถิ่นอาศัย : พืชบก
ยาง : ไม่มี
เกสรเพศผู้ : จำนวน 5 อัน สีเหลือง
เกสรเพศเมีย : จำนวน 1 อัน สีเหลือง
รังไข่ : รังไข่ใต้กิ่งวงกลีบ
กลิ่น : ไม่มี
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลักษณะวิสัย ไม้รอเลื้อยสูงประมาณ 1 เมตร รูปร่างทรงพุ่ม รูปร่ม
- ลำต้น ลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงได้เอง ผิวลำต้นเรียบ เห็นข้อปล้องไม่ชัดเจน ต้นแก่สีน้ำตาล ไม่มีน้ำยาง
- ใบ เป็นใบเดี่ยว ใบอ่อนสีเขียวอ่อน ใบแก่สีเขียวแก่ ขนาดแผ่นใบกว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร เรียงสลับแผ่นใบรูปไข่ ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ใบมีผิวมัน กลีบโคนเชื่อมกันเป็นหลอด
- ดอก เป็นดอกช่อ ช่อซี่ร่มเชิงประกอบ ออกดอกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกสีชมพู กลีบเลี้ยงแยกกัน จำนวน 3 กลีบ สีชมพู กลีบดอกแยกกันจำนวน 3กลีบ สีชมพู ไม่มีกลิ่น รูปร่างของดอก กลีบดอกแยกกัน รูปดอกถั่ว ปลูกเป็นไม้ประดับ
- ผลเฟื่องฟ้า ผลมีขนาดเล็ก ลักษณะเป็นสัน 5 เหลี่ยม เปลือกแข็งและมีเมล็ดติดกับเปลือก เมล็ดมีจำนวน 5-20 เมล็ด สีของผลอ่อนมีสีเขียว ผลแก่มีสีน้ำตาล เมล็ดมีรูปร่างแบน
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง, ตอนกิ่ง, เสียบยอด
ต้องการแสงแดดจัดในสภาพกลางแจ้ง ได้รับแสงแดดตลอดวัน ถ้าได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะทำ
ให้สีของใบไม่เข้มออกดอกน้อย ต้องการอุณหภูมิ ปานกลางหรือร้อนชื้น เมื่อโตขึ้น
ต้องการน้ำปานกลาง ถึงค่อนข้างต่ำ ถ้ารดน้ำมากเกินไปจะไม่ออกดอก
สรรพคุณ
สรรพคุณของเฟื่องฟ้า
ดอกเฟื่องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจและระบบขับถ่าย
(บางข้อมูลระบุว่าดอกเฟื่องฟ้ามีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิต
และใช้แทนเครื่องหอมได้ด้วย)
ดอกเฟื่องฟ้า (สายพันธุ์ Bougainvillea glabra Choisy.) มีรสขมฝาด เป็นยาสุขุม
ออกฤทธิ์ต่อตับ ใช้เป็นยาแก้ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี
รักษาสตรีที่ประจำเดือนไม่มา หรือมุตกิดตกขาวของสตรี ด้วยการใช้ดอกที่เป็นยาแห้ง
ครั้งละ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือจะใช้ร่วมกับตัวยาอื่นๆ
ในตำรับยาตามที่ต้องการ
เฟื่องฟ้าดอกขาว (Bougainvillea spectabilis Willd.) ในประเทศจีนจะไม่นิยมนำมาใช้ทำยา
แต่ในประเทศไทยจะมีการนำรากมาใช้เป็นยาแก้พิษต่างๆ
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของเฟื่องฟ้า สารที่พบ ได้แก่ สารจำพวก Bougainvillein เช่น Betanidinm Bougainvillea, 6-o-B-Sophoroside,
Verbascose Isobetanidin เป็นต้น
การดูแลรักษาเฟื่องฟ้า
แสง ชอบแสงแดดจัด
หรือกลางแจ้ง
น้ำ
ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน/ครั้ง
ดิน ดินร่วนซุย
ความชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
ปุ๋ย ควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6
ครั้งหรือใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร 15-15-15 อัตรา200-300
กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง
การขยายพันธ์ ปักชำ ตอน
การเสียบยอด
โรคและแมลง ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องโรค
ส่วนแมลงนั้นจะมีเพลี้ยรบกวนบ้างในบางครั้ง
แต่ควรระวังอย่าให้น้ำขังแฉะเพราะจะทำให้รากเน่า
การป้องกันกำจัด
ใช้ยาฉีดพ่นโดยใช้ ไดอาชินอน ตามที่ระบุไว้ในฉลากยา
พันธุ์เฟื่องฟ้าที่ปลูกเป็นไม้มงคล
1. พันธุ์เฟื่องฟ้าดอกสีแดง
ได้แก่ แดงจินดา แดงรัตนา แดงบานเย็น ตรุษจีนด่าง สาวิตรี กฤษณา
2. พันธุ์เฟื่องฟ้า ดอกสีขาว
ได้แก่ ทัศมาลีดอกขาว ขาวน้ำผึ้ง สุมาลี สุวรรณี
3. พันธุ์เฟื่องฟ้าดอกสีชมพู
ได้แก่ ชมพูจินดา ชมพูทิพย์ ชมพูนุช
4. พันธุ์เฟื่องฟ้าดอกสีม่วง
ได้แก่ ม่วงประเสริฐศรี พรสุมาลี ม่วงกฤษณา ทัศมาลี
5. พันธุ์เฟื่องฟ้าดอกสีส้ม
ได้แก่ สุมาลีสีทอง
6. พันธุ์เฟื่องฟ้าดอกสีเหลือง ได้แก่ เหลืองอรทัย
ประโยชน์ของเฟื่องฟ้า
ดอกเฟื่องฟ้าสามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหารได้ เช่น
การทำดอกเฟื่องฟ้าชุบแป้งทอด ด้วยการนำดอกเฟื่องฟ้ามาชุบในแป้งชุบทอด
รอให้น้ำมันร้อนจัด แล้วใส่ดอกเฟื่องฟ้าที่ชุบแป้งลงไปทอดจนเหลืองกรอบ
แล้วตักขึ้นมารอจนน้ำมันสะเด็ด ใช้รับประทานกับน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้น
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ดอกสวยมีหลายสีจากหลากหลายสายพันธุ์
นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเป็นซุ้มไม้เลื้อย เป็นซุ้มนั่งเล่น ปลูกในที่สาธารณะ
สวนข้างทางเดิน ปลูกเป็นแนวรั้ว ปลูกเป็นไม้กระถาง หรือทำเป็นไม้บอนไซหรือไม่แคระ
สามารถตัดแต่งทรงพุ่มได้ ดูแลรักษาได้ง่ายและทนความแล้งได้ดี
เมื่อมีอากาศเย็นจะมีออกดอกเต็มต้น
แต่ไม่ควรนำไปปลูกไว้ใกล้กับสนามเด็กเล่นเพราะมีหนามแหลม
ในด้านความเป็นมงคล คนไทยโบราณมีความเชื่อว่า
หากบ้านใดปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้เป็นไม้ประจำบ้าน
จะสามารถช่วยสร้างคุณค่าของชีวิตให้สูงขึ้น เนื่องจากต้นเฟื่องฟ้าเป็นพรรณไม้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็น
“ราชินีแห่งไม้ประดับ”
นอกจากนี้คนไทยโบราณยังมีความเชื่ออีกว่า
ต้นเฟื่องฟ้าเป็นไม้มงคลสำคัญของเทศกาลตรุษจีน
เพราะต้นเฟื่องฟ้าสามารถออกดอกได้บานสะพรั่งในช่วงเทศกาลตรุษจีน
(จึงเป็นที่มาของการเรียกต้นเฟื่องฟ้าว่า “ต้นตรุษจีน”)
ดังนั้นจึงมีความเชื่อว่า
เมื่อช่วงดอกเฟื่องฟ้าบานจะแสดงถึงความเบิกบาน สว่างไสว
และความรุ่งเรืองที่ก้าวไกลแห่งชีวิต
และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อยู่อาศัย
ควรปลูกต้นเฟื่องฟ้าไว้ทางทิศตะวันออก และผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธเพื่อเอาคุณ
ถ้าจะให้เป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นสตรี
เพราะเฟื่องฟ้าเป็นราชินีแห่งไม้ประดับ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับสุภาพสตรี
วิดิโอ
อ้างอิง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น